วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ความรักที่อาจก่อปัญหาในวัยเรียน


ความรักที่อาจก่อปัญหาในวัยเรียน




                หลายคนให้คำนิยามของความรักที่แตกต่างกันไป  เช่น  ความรักคือ  การให้  ความรักคือความหอมหวาน  ความรักคือความเห็นอกเห็นใจ  ความรักคือยาพิษ  ตลอดจนความรักคือยาขม  เป็นต้น
                วัยรุ่นที่อยู่ในวันเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา  ส่วนมากจะมีคนรักกันแล้ว  จะเป็นเพราะทันสมัย  ใครที่หาคนรักไม่ได้ก็คงคิดว่าเชยมากๆ  การติดต่อกันระหว่างหนุ่มสาวไม่ต้องเสียเวลาเหมือนเมื่อก่อน  ปัจจุบันนักเรียนนักศึกษาบางคนมีพร้อมแม้กระทั่งเพจเจอร์และโทรศัพท์มือถือ  (ไม่ทราบว่ามีไว้เพื่อกิจการใด) สามารถโทรติดต่อกันโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที  ก็สื่อความหมายได้เข้าใจ

                หลายๆ  คู่รักจริงหวังแต่ง  จึงต้องใช้ความพยายามถนอมน้ำใจ  รักเดียวใจเดียว  ส่งกำลังใจให้กัน  ปรึกษาหารือในด้านการเรียน  ช่วยกันทำงาน  ช่วยกันทำการบ้าน  ส่งอาจารย์  เรียนไปด้วยรักและให้กำลังใจกันไปด้วย  มีความสุขสดชื่น

                 ความรักมิใช่เป็นสิ่งที่หอมหวานเสมอไป  หลายคู่ที่มีปัญหา  ขาดความจริงใจต่อกัน  มีแต่ความใคร่  ขาดซึ่งความรัก  ชิงสุกก่อนห่าม  ซึ่งผลที่ติดตามมาคือ แต่ละฝ่ายเริ่มมีปัญหาด้านการเรียน  การขาดเรียนจะมีเป็นประจำ  เริ่มเบื่อหน่ายต่อการทำหน้าที่การเรียน  โกหกพ่อแม่ไปวันๆ  เพื่อขอค่าใช้จ่ายตามปกติที่ควรจะได้ แต่งชุดนักเรียนนักศึกษาเดินทางไปและกลับจากโรงเรียนเป็นปกติกับเพื่อนๆ  แต่ปรากฏว่าไปไม่ถึงโรงเรียน  เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาฝนกิจกรรมต่างๆ  นอกเหนือจากการเรียน  นัดพบหนุ่มสาวเข้าไปในแหล่งการพนัน  สนุ๊กเกอร์  สถานเริงรมย์ต่างๆ  เท่าที่จะสามารถไปได้  เริ่มมั่วสุมในอบายมุข  บุหรี่  ยาเสพติด  สาวค้าประเวณี  ผลที่ติดตามมาคือแต่ละฝ่ายต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน  คลินิกทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและคลินิกเถื่อนที่จัดตั้งขึ้นโดยทั่วไป  เพื่อแก้ปัญหากับสาวๆ  ที่มีความทุกข์ เป็นการแก้ปัญหาทางการเรียนที่ยากลำบากมาก  บรรดานักเรียนนักศึกษาสาวที่ต้องดิ้นรนตัวเองไปหาหมอเถื่อน  ต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตนได้ก่อขึ้นด้วยความทุกข์ระทม  เงินที่ได้มาเพื่อนำมาให้หมอ  ไม่ต้องสงสัยว่าหามาได้อย่างไร  ถ้าไม่ขอยืมหรือลักขโมยก็คงจะใช้วิชามารในการโกหกพ่อแม่หรือญาติพี่น้องหาเงินมาให้หมอเถื่อนทั้งหลาย  เงินก็เสีย  เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจกาย  อับอายขายหน้า  นอกจากนั้นต้องเสี่ยงกับความมีชีวิตรอดหรือไม่รอด  ถ้ามีชีวิตรอดจะต้องตกเป็นเป้าสายตาของชุมชนและสังคม ที่คอยดูถูกเหยียดหยาม  สายตาของสังคมจะตราหน้าถึงความอัปยศ  การเรียนแทบไม่ต้องพูดถึง  เพราะขาดการติดต่อเป็นเวลานาน  จะเข้าเรียนก็เกรงว่าจะได้รับการดุด่าว่ากล่าวหรือคำตำหนิติเตียนจากครู  อาจารย์  ถูกค่อนแคะจากเพื่อนร่วมห้องเรียน

                กิจกรรมนอกเหนือจากการเรียน  เป็นสิ่งที่ชดเชยกับผู้ที่หลงผิด  ส่วนมากจะปล่อยเนื้อปล่อยตัว  เพราะอย่างไรเสียก็สูญเสียร่างกายไปแล้ว  กิจกรรมร่วมกับเพื่อนชายกลับกลายเป็นเรื่องปกติ  เริ่มรับสิ่งเสพติดทั้งหลายทั้งปวงเข้าในร่างกาย  การหาเงินเพื่อซื้อสิ่งเสพติดมีความถี่มากขึ้น

                ฝ่ายชาย  หลังจากที่สลัดรักคนเก่าแล้ว  ก็มุ่งหารักใหม่และหวังในการทำลายลูกผู้หญิงไปเรื่อยๆ  หลังจากนั้นก็สร้างความแตกร้าวเหมือนกับที่เคยปฏิบัติกับคนก่อนๆ  แต่การกระทำดังกล่าวผลกรรมก็ตกอยู่กับตัวเขาเอง  โดยเข้าไปพัวพันกับแก๊งค้ายาบ้า  ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม  นำตนเองเข้าไปอาศัยอยู่ในเรือนจำ

                ความรักของหนุ่มสาวเป็นความรักที่หอมหวาน  เป็นวัยแห่งความสดชื่น  วัยอยากลองอยากรู้  อยากสัมผัส  เป็นวัยที่ต้องพยายามใฝ่หาคนรู้ใจ  คนให้กำลังใจและเอาใจซึ่งกันและกัน

                หนุ่มหลายๆ  คนมีปัญหาถึงกับต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อย  ถึงขั้นรวมสมัครพรรคพวกเพื่อไปทำร้ายร่างกายกับคู่อริ  เมื่อทราบว่าหนุ่มคนดังกล่าวมีพฤติกรรมมาแย่งคนรักของตนเอง  ต้องเดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ  อาจารย์หัวหน้างานปกครองของสถานศึกษา  รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องโดยทั่วไป  เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นไปในทางที่ดี

                ข่าวที่เกิดขึ้นจากสื่อแทบทุกชนิด  ทั้งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น  หนังสือพิมพ์ระดับชาติ  ข่าวที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์  เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า  ปัญหาที่เกิดขึ้นของสังคมทุกวันนี้  นอกจากเหตุที่เกิดจากอาชญากรรมกับบุคคลทั่วไป  ยังมีข่าวของนักเรียนนักศึกษาที่ก่อปัญหาอาชญากรรม  ปัญหาแย่งชิงคนรักจนถึงกับทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต  บางคนแก้ปัญหารักของตนเองไม่ได้ถึงกับต้องกินยาฆ่าแมลง  กระโดดตึก  และวิธีการอย่างอื่นๆ  เพื่อหนีปัญหา

                ปัญหาความรักที่เกิดขึ้นระว่างวัยเรียน  จะไม่เกิดเฉพาะในหมู่เพื่อนเดียวกันเท่านั้น  หลายครั้งที่อ่านข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์  หรือข่าวจากโทรทัศน์  นักเรียนนักศึกษาสาวกับครูอาจารย์นาถานศึกษามีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางชู้สาว  ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียกับอาชีพของคนที่สร้างคนและสอนคน  นับว่าเป็นจุดบอดของวงการการศึกษา  ที่ถือว่าอาชีพครู  เป็นอาชีพที่มีเกียรติสูงมาก  เป็นที่นับหน้าถือตามของนักเรียน  นักศึกษา  ผู้ปกครอง  และบุคคลทั่วไป  ปัญหาที่เกิดแต่ละครั้งจะกระทบกระเทือนจิตใจของบรรดาครูอาจารย์อย่างมาก


มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

                วิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับความรัก  ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างศึกษาหาความรู้  ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายและอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะผู้ที่เป็นพ่อแม่ ครูอาจารย์  ผู้นำชุมชนต่างๆ  ที่สำคัญที่สุดที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างจริงจังคือ  ตนเอง  ดังนั้นจึงมีทั้งตัวบุคคลและวิธีการซึ่งพอสรุปเป็นสังเขปดังนี้

1.  สร้างพลังให้ครอบครัวมีความเข้มแข็ง

                พ่อแม่จะต้องสร้างความสุข  ความอบอุ่นให้กับสมาชิกในครอบครัว  ความรักระหว่างพ่อแม่ที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ  การไม่ทะเลาะเบาะแว้ง  เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกๆ  เช้าเย็นพบหน้าให้การอบรมสั่งสอนทางด้านคุณธรรม  จริยธรรมกับลูกๆ  การร่วมรับประทานอาหารอย่างพร้อมหน้า  การร่วมกิจกรรมภายในและนอกบ้าน  พาลูกๆ  ไปทานอาหารที่ร้านอาหารตอนเย็นๆ  เป็นครั้งคราว  จะเพิ่มความสุขความเป็นกันเอง  สร้างความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่  พี่ๆ  น้องๆ  และลูกหลาน  พาครอบครัวทำบุญที่วัด  สนทนากับพระคุณเจ้าเป็นบางครั้งเพื่อกล่อมเกลาจิตใจ  ยึดคำสอนของคำพระสัมมาสัม-พุทธเจ้าเป็นหลักธรรมคำสอน

                หลายครอบครัวที่มีปัญหา  ส่วนมากจะเกิดขึ้นจากบ้าน  เด็กขาดความสุข  ขาดความอบอุ่นภายในบ้าน  พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกๆ  ของตนเอง กิจกรรมสังคมสงเคราะห์บ่อยครั้ง  ทำให้ลูกขาดที่พึ่งทางใจ  ไม่มีที่ปรึกษา  ต้องหนีตัวเองไปพึ่งพาอาศัยเพื่อนฝูง  หรือคนรัก  เป็นเหตุให้ต้องไปหมกมุ่นกับสิ่งเลวร้ายทั้งปวง กลายเป็นปัญหาความรักระหว่างเรียน

2.  สร้างพลังเข้มแข็งให้กับตนเอง

                ผู้เป็นลูก  ที่อยู่ในวัยนักเรียน  นักศึกษา  เป็นผู้มีความสำคัญอย่างมาก  ตนเองจะเดินทางไปสู่ความดีหรือความเลวร้ายขึ้นอยู่กับตนเองเท่านั้น  ความสำนึกในหน้าที่ของความเป็นลูกเป็นศิษย์เป็นคนดีของชุมชนและสังคม  จะขึ้นอยู่กับจิตใจของตนเองเท่านั้น  อย่าให้ใครมาบงการชีวิตของเรา  การหนีห่างจากสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวง  การสร้างพลังให้กับตนเองเป็นคนเข้มแข็ง  หนีห่างจากสิ่งเสพติด  เลือกคบแต่เพื่อนที่ดี  เพื่อนดีคือเพื่อนที่คอยชี้แนะในทางที่เหมาะสม  การชักชวนให้เรียนหนังสือไม่ชักชวนไปในทางที่เสื่อมเสียเกียรติ  เสียคน  เสียอนาคต

3.  ครูอาจารย์ที่คอยสร้างกำแพงป้องกัน

                หน้าที่ของครูอาจารย์  จะปลูกฝังให้นักเรียน  นักศึกษา  ทั้งด้านวิชาการและอบรมคุณธรรม  จริยธรรมให้กับศิษย์  ปลูกฝังความสำนึกในหน้าที่  ความซื่อสัตย์ การแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดา  บุพการี  ครู  อาจารย์  ปลูกฝังความรักชาติ  ศาสนา  และองค์พระมหากษัตริย์  คอยสอดส่องติดตามพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน พฤติกรรมที่อาจจะส่อไปในทางติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด  เริ่มตั้งแต่การสูบบุหรี่  ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเสพยาเสพติดต่างๆ

4.  ผู้บริหารสถานศึกษา  ส่งเสริมสนับสนุน

                ผู้บริหารรวมทั้งทีมงานบริหารจัดวางแผนงาน  และมอบหมายให้ครูอาจารย์ที่สอนและที่เกี่ยวข้อง  อบรมคุณธรรม  จริยธรรมเพื่อปลูกฝังให้กับลูกศิษย์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ  อาจจะใช้เวลาประมาณ  2-3  นาที  ก่อนการสอนด้านวิชาการ  เช่น  การปลูกฝังให้ศิษย์เป็นคนมีเหตุมีผล  ถ้าเป็นวัยเด็กและหนุ่มสาว การแนะนำเรื่องความรักในระหว่างเรียนไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ  โดยเฉพาะอาจารย์สุภาพสตรี  การแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงๆ  กับนักเรียนหญิง  การดูแลร่างกาย  การรักษาประเพณีอันดีงาม  ความเป็นกุลสตรีที่สง่างามของคนไทย  หญิงไทย  ความรักที่อาจจะเกิดปัญหาในวัยเรียน  การจัดอบรมพัฒนาจิตโดยคณะวิทยากร

                การติดตามประเมินผลของฝ่ายบริหาร  จะเป็นการกระตุ้นให้ครูอาจารย์ได้ทำหน้าที่ของความเป็นครูได้อย่างดี

 5.  ผู้นำชุมชนให้ความสนใจลูกหลาน

                ในชุมชนหมู่บ้าน  ผู้นำชุมชน  คือ  พระสงฆ์ ผู้ใหญ่บ้าน  กำนัน  อ.บ.ต.  และอื่นๆ  ควรจัดประชุมและวางแผนจากคณะกรรมการของหมู่บ้าน  จัดกิจกรรมภายในชุมชน  เพื่อต่อต้านสิ่งที่เป็นอบายมุขทั้งหลายที่จะเข้ามาภายในหมู่บ้าน  อบรมสั่งสอนลูกหลานที่เป็นทั้งเด็กและเยาวชน  นักเรียนนักศึกษาให้ห่างไกลยาเสพติด ให้ประพฤติและปฏิบัติในกรอบของคุณงามความดี  เพื่อชื่อเสียงของตนเอง  ของพ่อแม่  เพื่อหมู่บ้าน  กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์  กิจกรรมทางศาสนาเพื่อปลูกฝังให้เยาวชนเป็นคนดีมีระเบียบวินัยสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเองและครอบครัว  รวมทั้งชุมชน  ผู้นำในชุมชนนั้น  จำต้องปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกหลาน

 6.  ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวที่สร้างสรรค์และให้ความรู้

                โดยหน้าที่ของผู้สื่อข่าวคือ  การนำเสนอข่าวแทบจะทุกเรื่องต่อสาธารณชน  เพื่อผู้บริโภคจะได้ทราบความเคลื่อนไหวเหตุการณ์ของทุกพื้นที่ของโลก  ข่าวอาชญากรรม  ข่าวเศรษฐกิจ  ข่าวเหตุบ้านการเมือง  ข่าวบันเทิง  และข่าวมโนสาเร่ต่างๆ      บางข่าวจะมีผลทำให้วัยรุ่นนำเป็นเยี่ยงอย่าง  เช่น  เยาวชนบางคนที่แก้ปัญหาชีวิตของตนไม่ตก  หาที่พึ่งพาทางใจไม่ได้  ขาดที่ปรึกษา  เลยต้องทำร้ายตนเอง  กระโดดตึก  กินยาฆ่าแมลง  และวิธีการอื่นๆ  ล้วนแล้วแต่เป็นข่าวที่สะเทือนใจและสะเทือนขวัญของสังคมโดยทั่วไป  วัยรุ่น  วัยคะนอง  วัยอยากลองรัก  เกิดความไม่สมหวังในรัก  ก็เอาตัวอย่างจากข่าวที่เคยลงในหนังสือพิมพ์  จากโทรทัศน์เป็นแบบอย่าง  ดังนั้นบางครั้งการเสนอข่าวในแง่ที่จะเป็นตัวอย่างก็ควรลดน้อยลง

                นักเรียน  นักศึกษาหลายคน  เคยเห็นตัวอย่างในข่าวจากที่ต่างๆ  ก็ปฏิบัติตาม  โดยแท้จริงแล้วการนำเสนอข่าวในทางสร้างสรรค์  การเสนอแนะในเชิงให้ความรู้หรือแทนที่นำเสนอข่าวด้านลบอย่างเดียว  ข่าวที่เป็นการให้ความรู้  การแก้ปัญหาวัยรุ่น  วัยเรียน  สื่อด้านต่างๆ  ก็ควรบรรจุเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ด้วย

                ความรักอันหอมหวานของเด็กวัยรุ่น    วัยเรียน  เป็นเรื่องที่เสี่ยงพอสมควร  แต่ทุกคนก็อยากจะลอง  เมื่อเข้าไปสัมผัสแล้วก็ลืมเรื่องเรียน  การมอบความรัก การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน  ความรักเดียวใจเดียว  รักรอและรอรักได้  เมื่อจบการศึกษามีการมีงานทำเป็นหลักแหล่ง  มีรายได้เป็นของตนเอง  เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกัน และให้ความหวังไว้ต่อกันและกัน  ประสบความสำเร็จในชีวิตของความรัก  แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา  ก็หลายคู่ถือเป็นตัวอย่างที่ดี

 บทสรุป


                ความรักในวัยเรียนเป็นความรักที่หวานชื่น  ถ้าขาดซึ่งความจริงใจต่อกัน  ไม่สามารถถนอมน้ำใจกันอย่างตลอด  การชิงสุขก่อนห่าม  ผลที่ตามมาคือ  ความรักเปรียบเสมือนยาขม  การเสริมสร้างพลังให้กับครอบครัว  ให้ความเข้มแข็ง  พ่อแม่มีส่วนทำให้ครอบครัวเข้มแข็งหรืออ่อนแอได้  ครูอาจารย์ในสถานศึกษามีส่วนอบรมหรือสั่งสอนได้มาก  เนื่องจากนักเรียนนักศึกษามีเวลาอยู่กับครูอาจารย์ที่สถานศึกษาอย่างน้อย  8  ชั่วโมง  นอกจากนั้นผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้นำชุมชน  ผู้สื่อข่าวและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง  ล้วนแล้วแต่มีส่วนร่วมในการดูแลและอบรมให้      เยาวชนของชาติเป็นคนดีของสังคม  สอนให้มีความรู้ดี  รู้ชอบ  รู้เหตุรู้ผล  รู้วิธีการแก้ปัญหาในชีวิตของตนเอง  เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือแห่งอบายมุข  ถ้าผู้มีหน้าที่ดังกล่าวช่วยกันดูแลลูกหลานและปฏิบัติตามแนวทางเหตุการณ์ที่บอกว่า  ความรัก..ที่อาจจะเป็นปัญหาในวัยเรียน...คงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น